28/03/2024

สีผึ้งพรายรัญจวน ปู่พรห์ม เจ้าเสน่หา ท่าขี้เหล็ก พม่า:01263

สีผึ้งพรายรัญจวน ปู่พรห์ม เจ้าเสน่หา ท่าขี้เหล็ก พม่า
สีผึ้งพรายรัญจวน ปู่พรห์ม เจ้าเสน่หา ท่าขี้เหล็ก พม่า
สีผึ้งพรายรัญจวน ปู่พรห์ม เจ้าเสน่หา ท่าขี้เหล็ก พม่า
สีผึ้งพรายรัญจวน ปู่พรห์ม เจ้าเสน่หา ท่าขี้เหล็ก พม่า
สีผึ้งพรายรัญจวน ปู่พรห์ม เจ้าเสน่หา ท่าขี้เหล็ก พม่า

รหัส : 01263

ราคา : 0.00

(รายการนี้ไม่มีแล้ว)

…ปู่พรห์ม เจ้าเสน่ห์หา อาจารย์ผู้เฒ่าชาวพม่า อายุ 82 ปี (ปัจจุบันเสียชีวิตแล้ว) ผู้เชียวชาญพระเวทย์ด้านเมตตามหาเสน่ห์ชั้นสูงของเมืองพม่า ชนิดรู้จริงเห็นจริงพิสูจน์ได้ วิชาอาถรรพณ์ไสยเวทย์ต่าง ๆ ปู่พรห์มล้วนสืบทอดมาจาก ปู่สี ปู่แท้ ๆ ของท่าน ปู่สีครั้งยังมีชีวิตอยู่ท่านเป็นฆราวาสที่มีอาคมขลังโดยเฉพาะทางด้านเมตตามหาเสน่ห์แล้วละก็ เห็นผลได้ชะงักนัก จึงเป็นที่นับถือของหนุ่มชาวพม่าในยุคนั้นเป็นอย่างมาก ปู่พร์หมได้ตั้งใจสืบทอดวิชาอาถรรพณ์ต่าง ๆ จากปู่สีมาจนหมดสิ้นจนสามารถทดสอบให้ปู่สีได้เห็น จนเป็นที่พอใจอย่างมาก ปู่พรห์มกล่าวว่าท่านสามารถทำน้ำมันพราย และผงภูติพรายต่าง ๆ ใช้ทางด้านเมตตามหาเสน่ห์ เห็นผลชะงัก ตั้งแต่อายุแค่เพียง 17 ปีเท่านั้น ปู่สีจึงมอบหมายให้ปู่พรห์มเป็นผู้สืบทอดวิชาทำเครื่องรางของขลังอาถรรพณ์ต่าง ๆ แทนท่านตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ดังนั้นปู่พรห์มจึงได้เป็นอาจารย์คนตั้งแต่อายุยังน้อยมีลูกศิษย์ลูกหานับถือกันมาก แม้แต่ในปัจจุบันพระอาจารย์ที่มีชื่อเสียงโด่งดังหลายรูปด้วยกันยังเคยฝากตัวเป็นศิษย์ปู่พรห์มมาแล้ว สมัยมีชีวิตอยู่ปู่พรห์มมีภรรยาทั้งหมด 17 คน มีลูกเต้ามากมายหลายคนและมีหลายบ้าน ท่านจึงไม่ค่อยได้อยู่เป็นที่ คนส่วนน้อยที่จะได้พบกับท่าน นอกจากศิษย์ที่อยู่ใกล้ชิดเท่านั้นถึงจะได้เจอและนานทีปู่พรห์มถึงจะแวะมาหาลูกศิษย์ที่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย

ปู่พรห์มท่านเป็นฆราวาสผู้เฒ่าผู้มีวิชาอาคมเข้มขลังพลังจิตกล้าแข็งรู้วิชามาก สร้างและเสกของได้เข้มขลังมีฤทธิ์แรงเห็นผลรวดเร็วเครื่องรางของขลังต่าง ๆ ที่ปู่พรห์มสร้างออกมานั้นล้วนแต่เป็นที่ต้องการของบรรดาลูกศิษย์ลูกหาเป็นอย่างมาก ผู้ที่มีไว้บูชาต่างก็หวงแหนเพราะปู่พรห์มท่านสร้างของน้อยมาก ท่านสร้างออกมาทีไรศิษย์ใกล้ชิดมักจะเก็บไว้หมด คนภายนอกส่วนน้อยมากที่จะได้ไว้บูชา ปู่พรห์มกล่าวว่าเหตุที่ท่านสร้างของน้อยเพราะว่าผงมวลสารอาถรรพณ์ต่าง ๆ ล้วนหายากมีจำนวนจำกัดเวลาสร้างท่านจึงเน้นพุทธคุณเป็นหลักมิใช่เน้นปริมาณสังเกตุได้จากหนุ่มชาวพม่าหลายคนที่อยู่ท่าขี้เหล็กล้วนแต่ได้ภรรยาไทยที่หน้าตาดี ๆ กันทั้งนั้นเนื่องจากเขาเหล่านั้นล้วนแต่มีของดีของปู่พรห์มบูชาติดตัวกันทุกคน ปู่พรหม์มักจะกล่าวว่า

“ของ ๆ ข้าทุกชิ้นที่พวกเอ็งเอาไปใช้ ข้าสร้างและเสกอย่างเต็มกำลังพวกเอ็งเอาไปใช้จะต้องสมหวังในความรักกันทุกคน ข้าเอาตัวข้าเป็นประกันได้ ถ้าหากพวกเอ็งใช้ไม่ได้ผลเอ็งเอาของข้าไปโยนทิ้งได้เลย ข้าเรียนวิชามาตั้งแต่เด็กจนแก่สร้างของขลังมาก็มาก ถ้าของข้าไม่ดีจริงจะมีคนมาหาข้าเอาของข้าไปบูชาเยอะแยะขนาดนี้หรือ ข้าให้ของเขาไปบูชาร้อยคนมันต้องได้ผลร้อยคน ส่วนคนที่มัน ใช้ไม่ได้ผลไม่ใช่เพราะของข้าไม่ขลังแต่เป็นเพราะว่ามันไม่เชื่อมั่นนับถือกันจริง เอาของ ๆ ข้าไปวางไว้เฉย ๆ ใช้บ้างถอดทิ้งบ้าง มันจะได้ผลอะไร ของ ๆ ข้า ๆ มั่นใจว่า แม้นเอ็ง ไม่หล่อ ไม่สวย ไม่รวย เอ็งต้องหาคู่ได้แน่นอน ไม่ต้องกลัวผิดหวัง ยังไงข้าก็ไม่ให้เสียชื่อครูบาอาจารย์ที่สอนวิชาข้ามาหรอก และของ ๆ ข้า เอ็งพิสูจน์ได้ทุกชิ้นดังนี้ นำเครื่องรางของข้ากำไว้ในฝ่ามือให้แน่น ท่องนะโม 3 จบ แล้วกำหนดจิตให้เป็นสมาธิ ท่องคาถาเรียกธาตุทั้ง 4 ดิน น้ำ ลม ไฟ (นะ มะ พะ ทะ) ไปเรื่อย ๆ อย่าให้ขาด ทำใจให้เป็นสมาธิแล้วเอ็งจะรู้สึกขนลุกขนพองไปทั้งตัวหรือร้อนที่ฝ่ามือหรือหากเอ็งทำไม่เป็นเอ็งก็เอาไปให้พระที่ฝึกกรรมฐานหรือคนที่จับพลังเป็นเช็คดู ก็จะรู้ว่าของข้าแรงไม่เป็นรองใครแน่”

กล่าวกันว่าปู่พรห์มท่านพลังจิตกล้าแข็งมาก เวลาปู่พรห์มท่านร่ายมนต์ปลุกเสกของขลังคราใด ลูกศิษย์ไม่สามารถถ่ายรูปติดได้ชัดสักครั้ง ทั้งกล้องใส่ฟิล์มหรือดิจิตอลแม้แต่กล้องวีดีโอก็ตามไม่สามารถบันทึกได้ทุกครั้งไปหากบันทึกได้ก็เห็นแต่รูปลาง ๆ และมีแสงต่าง ๆ พวยพุ่งล้อมรอบตัวปู่พรห์มเท่านั้น เครื่องรางของขลังชุดนี้ปู่พรห์มท่านได้จัดสร้างขึ้นเป็นครั้งสุดท้ายและมีจำนวนไม่มากนัก จัดสร้างตามตำราโบราณ

“เครื่องรางอาถรรพณ์ 3 ชิ้นนี้ข้าสร้างให้พวกเอ็งใช้กันทางด้านเมตตามหาเสน่ห์มหานิยมต่อไปพวกเอ็งคงสมหวังในความรักกันเสียทีพวกเอ็งเลือกเอาเองเถิดนะว่าชอบแบบไหน หากใช้แล้วได้ผลดังปรารถนาเอ็งต้องรับผิดชอบดูแลเขาด้วยนะ หากทิ้งขว้างเขามันจะเป็นบาปมาถึงตัวข้าได้และให้พวกเอ็งประพฤติตัวอยู่ในศีลในธรรมบ้างนะลูกเอ๋ย”
*หมายเหตุข้อมูลทั้งหมดคัดลอกมาจากนิตยสารพระเครื่องฉบับหนึ่งได้ลงเอาไว้เมือปี 2548…

สีผึ้งพรายรัญจวน สร้างจากสีผึ้งพรหมจรรย์โดยมีเคล็ดว่าต้องซื้อกับเด็กหญิงสาวที่บริสุทธิ์ 7 คน นำมาผสมกับรังผึ้งร้างรังที่ทำรังบนต้นไม้รักกิ่งทางทิศตะวันออกและสีผึ้งปิดตาพระเจ้า นำมาผสมรวมกัน โดยกำหนดฤกษ์ยามที่เป็นมงคลเหมาะสำหรับทำพิธีกรรมด้านมหาเสน่ห์ตั้งขันบูชาครูขึ้นทั้ง 4 ทิศ โดยนำไม้รักและไม้มะยมมามัดรวมกัน ปักล้อมไว้ทั้ง 4 ทิศ พันล้อมด้วยด้ายสายสิญจน์โดยห้ามผู้ใดเข้ามาในพิธีโดยเด็ดขาด เมื่อนำสีผึ้ง 3 อย่างมาผสมรวมกันดีแล้ว จึงนำว่านอาถรรพณ์ที่มีฤทธิ์ทางด้านมหาเสน่ห์โดยตรง 7 ชนิด น้ำมันพรายแท้พราย 9 ตน ผงมหาภูติและพรายที่ปู่พรห์มผูกขึ้นทางมหาเสน่ห์ ผงอาถรรพณ์เหล่านี้ปู่พรห์มกล่าวว่าท่านได้ผูกด้วยอาคมไว้แล้วไม่มีการเสื่อมฤทธิ์ มีแต่จะหนุนในด้านดีให้ผู้บูชาได้พบแต่ความสำเร็จสมดังใจปรารถนา ในด้านความรัก ผงเหล่านั้นแม้นไม่ได้นำมาผสมสีผึ้ง เพียงแค่บูชาติดตัวก็เป็นเมตตาเสน่ห์อย่างดีชั้นเยี่ยมทีเดียว สาเหตุที่นำมาผสมนั้นเพื่อต้องการให้เห็นผลเห็นฤทธิ์เร็วยิ่งขึ้น เนื่องจากปัจจุบันคนส่วนมากมักต้องการความรวดเร็วเห็นผลทันตา และใจร้อน ปู่พรห์มจึงนำมาผสมกับหัวเชื้อ เมื่อนำของอาถรรพณ์เหล่านี้มาผสมรวมกันดีแล้ว ปู่พรห์มจึงได้นำไม้รักและไม้มะยมคนเคี่ยวสีผึ้งให้เข้ากันโดยท่องมนต์คาถาประจุอาคมด้านเมตตามหาเสน่ห์ลงไปจนครบทุกบท และฟืนที่ใช้หุงนั้นต้องใช้ไม้รักและไม้มะยมนำมาจารอักขระเลขยันต์ทางด้านเมตตามหาเสน่ห์ทุกท่อน เวลานำฟืนใส่จะต้องใส่ให้ถูกด้าน เช่น ถ้าใส่ทางปลายก็ใส่ทางปลาย หากใส่ทางโคนก็ต้องทางโคนไปตลอดจนฟืนนี้ไหม้หมดกับไฟเมื่อหุงได้ที่ดีแล้ว ปู่พรห์มจึงนำสีผึ้งนั้นฝังไว้ในป่าช้านาน 7 วัน 7 คืน เพื่อให้เจ้าที่เจ้าทางเจ้าป่าช้าได้ลงมาปลุกเสก เมื่อครบกำหนดเวลาปู่พรห์มจึงนำหม้อสีผึ้งนั้นไปตั้งไว้กลางเชิงตะกอนเผาศพทำพิธีปลุกเสกสีผึ้งด้วยมนต์มหาเสน่ห์ จนสีผึ้งนี้ละลายด้วยพลังจิตโดยไม่ต้องใช้ไฟแต่อย่างใด จึงเป็นอันเสร็จพิธี สีผึ้งนี้ผู้ใดมีไว้บูชาติดตัวจะเป็นเมตตามหาเสน่ห์ต่อเพศตรงข้ามและผู้พบเห็นตรึงจิตตรึงใจให้คิดพิศวาสรักใคร่หลงใหล ดึงดูดใจเพศตรงข้ามดีนัก อย่าว่าแต่มนุษย์เลยแม้นเหล่าเทพเทวดาทั้งหลายหากได้ประสบพบเห็นก็จะทนอยู่มิได้ ให้นำสีผึ้งนี้ทาที่หัวคิ้วและหน้าผากก่อนออกจากบ้านเพื่อไปจีบสาว หรือติดต่อเจรจาค้าขายเข้าหาเจ้านายทุกครั้งดีนักแล หากค้าขายให้นำสีผึ้งนี้ทาสิ่งของที่ต้องการจะขายก็จะสำริดผลเห็นกันมานักต่อนักแล้ว หมายเหตุสีผึ้งนี้ฤทธิ์สูงมากทางเมตตามหาเสน่ห์ให้ใช้ด้วยความระมัดระวังรับผิดชอบ

ก่อนใช้สีผึ้งพรายรัญจวนให้ภาวนาด้วยคาถาบทนี้ โอม มะโมพุทธายะ เพชชะละลวย ชายเห็นชายงวย หญิงเห็นหญิงหลง เห็นหน้ากูก็ให้งวยงงพิศวาสครวญหา นั่งท่าฟังข่าว นั่งเฝ้าปากทาง นั่งเยี่ยมหน้าต่าง กอดอกรำพึง มะอะอุ สุดคำนึงบ่มินอน อิสวาสุ สุดสวาทอารมณ์ ร้อนรนทนอยู่มิได้ ร้องไห้มาหากู พุทธังสะระติจิตตัง สะมาเร มะมะเอหิ ธัมมังสะระติจิตตัง สะมาเร มะมะเอหิ สังฆังสะระติจิตตัง สะมาเร มะมะเอหิ นะมิเห็นหน้ากูอยู่มิได้ โมร้องไห้ครวญคราง พุทกอดไว้มิใคร่จะวาง ธาครวญครางสะอื้นไห้ ยะหลงใหลในจิต หญิงชายใดเพ่งพิศเห็นหน้ากู อยู่มิได้ ร้องไห้มาหากู โอมสิทธิแก่กูสวาหะ เอหิชัยยะ เอหิสัพเพชะนา พะหุชะนาเอหิปิยังมะมะ ท่อง 3 จบแล้วกลั้นใจเป่าคาถาบทนี้ลงที่สีผึ้ง 3 ที แล้วจึงนำมาทาที่หัวคิ้วและหน้าผากอธิษฐานตามปรารถนาแล

Leave a Reply