by 
รหัส : 02184
ราคา : 0.00
(รายการนี้ไม่มีแล้ว)
พระครูสุนทร พุทธิคุณ วัดตั๊มน้ำล้อม จ.พะเยา พระเกจิอาจารย์ผู้มากด้วยบุญญาบารมีแห่ง จ.พะเยา หลวงพ่อท่านได้เคยศึกษาเล่าเรียนพระธรรมและการปฏิบัติกับพระสุปฎิปัณโณหลายท่าน อาทิเช่นหลวงพ่อเกษม เขมโก ตนบุญแห่งลานนาไทย ซึ่งในสมัยที่หลวงพ่อเกษมท่านดำรงธาตุขันธ์อยู่หลวงพ่อได้เคยถวายตัวปรนนิบัติเป็นพระอุปถัมป์ หลวงพ่อท่านเป็นพระสงฆ์ที่ปฎิบัติดีปฎิบัติชอบเป็นที่เคารพเลื่อมใสศรัทธาในหมู่ประชาชนเป็นอย่างมาก ท่านยังเป็นพระอุปัชฌาย์ให้กับครูบาเจ้าหลายองค์ อาทิเช่น เป็นพระอุปัชฌาย์พระครูบาเจ้าหน่อแก้วฟ้า (พระเจษฎา โชติปญฺโญ) เป็นต้น ทางด้านพระเวทย์วิทยาคมหลวงพ่อท่านชำนาญเจนจบในวิชาราหูสะเดาะห์เคราะห์แก้ดวงชะตา วัตถุมงคลที่หลวงพ่อพระครูสุนทรท่านอธิษฐานจิตปลุกเสกโดดเด่นทางด้านเมตตามหานิยม โภคทรัพย์โชคลาภ เสริมหน้าที่การงานเจริญรุ่งเรือง
พระพุทธเมตตามหาลาภ เสริมบารมี สร้างเป็นพระผงทรงกลม โดยประดิษฐานพระพุทธรูปปางสมาธิซึ่งเป็นปางตรัสรู้ ประทับนั่งบนฐานบัวคว่ำบัวหงาย ล้อมรอบด้วยอักระยันต์คาถาศักดิ์สิทธิ์ ด้านหลังประทับมหายันต์วิเศษทางด้านเมตตามหานิยม
อันหมายความถึง การที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเมื่อท่านได้อภิเษกสัมมาสัมโพธิญาน ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าแล้ว นับเป็นสิ่งมงคลที่สุดได้บังเกิดสิ่งมหัศจรรย์หลายอย่างสั่นสะทือนไปทั้ง ๓ โลกธาตุ ทั้งเทวดาและพรหมทั้งหลายต่างมาสรรเสริญ แซ่สร้องสดุดี เป็นที่ปลาบปลื้มยินดีโดยทั่วกันทั้งหมด จะมีเหตุการณ์อื่นใด น่ายินดีเท่าการอุบัติขึ้นของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้วไม่มี การบูชาพระพุทธเจ้านั้นเป็นสิ่งที่เป็นมงคลสูงสุด เป็นสรณะที่พึ่งอันประเสริฐที่สุดจะหาสรณะใดเทียบเท่าเสมอด้วยพระพุทธเจ้านั้นไม่มี เมื่อคนเราเกิดความทุกข์หรือมีเรื่องเดือดร้อนขึ้น ก็มักจะแสวงหาที่พึ่ง บ้างก็ยึดเอาต้นไม้ ภูเขา เป็นสรณะบ้าง ยึดเอาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เป็นเทวรูป เป็นสิ่งเคารพต่างๆบ้าง นั่นก็ดีอยู่ แต่ก็ไม่ใช่สรณะอันสูงสุด การบูชาพระพุทธเจ้าเป็นสิ่งที่ประเสริฐที่สุด
คุณของพระพุทธเจ้าได้สรรเสริญไว้แล้วในบทพระพุทธคุณดังนี้
อิติปิโส ภควา สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้า
๑. อรหํ เป็นท่านเป็นพระอรหันต์หมดกิเลสโดนสิ้นเชิง
๒. สมฺมาสมฺพุทโธ ตรัสรู้ชอบด้วยพระองค์เอง คือค้นพบสัจจะธรรมด้วยพระองค์เอง
๓. วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน ถึงพร้อมด้วยวิชชาและจรณะ หมายถึงความรู้ที่ประองค์ได้ในวันอภิเษกสัมมาสัมโพธิญาน คือ
๑.ปุพเพนิวาสญาณ สามารถระลึกชาติได้ไม่จำกัด
๒.จุตูปปาตญาณ รู้การเกิดการตายของสัตว์ว่าเกิดมาจากที่ใดตายแล้วจะไปที่ใด
๓.อาสวักขยญาณ ความรู้ที่จะทำให้อาสวะกิเลสหมดสิ้นไป
๔. สุคโต เป็นผู้เสด็จไปดีแล้ว หมายถึงท่านเสด็จไปที่ไหนก็เกิดแต่สิ่งที่ดี ท่านดับขันธ์แล้วก็ไปพระนิพพาน
๕. โลกวิทู เป็นผู้รู้แจ้งในโลกธาตุทั้งหมด ไม่มีสิ่งใดในโลกธาตุและจักวาลธาตุที่พระพุทธเจ้าไม่รู้
๖. อนุตฺตโร ปุริสทมฺมสารถิ เป็นสารถีฝึกคนที่ฝึกได้ไม่มีใครยิ่งกว่า
๗. สตฺถา เทวมนุสฺสานํ เป็นศาสดาครูสอนของเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย
๘. พุทฺโธ เป็นผู้ตื่นและเบิกบานด้วยธรรมที่พระองค์ได้ตรัสรู้แล้วนั้นตลอดเวลา
๙. ภควา จำแนกธรรมสั่งสอนสรรพสัตว์ทั้งหลายให้ตื่นให้รู้ธรรม
พุทธคุณทั้งหมดนั้น กล่าวโดยย่อมี ๓ ประการคือ
๑. พระปัญญาคุณ พระคุณคือพระปัญญา
๒. พระวิสุทธิคุณ พระคุณคือความบริสุทธิ์
๓. พระมหากรุณาคุณ พระคุณคือความเมตตากรุณาที่พระพุทธองค์มีแก่สัตว์โลก
การสรรเสริญบูชาคุณของพระพุทธเจ้านั้นมีอานิสงค์สูงมาก บังเกิดความเป็นมงคลนานับประการ เมื่อเกิดเรื่องทุกข์ร้อนใด ให้ทำจิตให้เป็นสมาธิระแล้วสวดบทพระพุทธคุณ ๓ จบ ๙ จบ แล้วอธิษฐานขอบารมีของพระพุทธเจ้าให้ช่วยเหลือ เรื่องทุกข์ร้อนนั้นจะผ่อนคลาย ด้วยอำนาจของพระพุทธานุภาพ
ชนวนมวลสารที่ใช้สร้างประกอบด้วย ผงไม้โพธิ์นิพพาน ผงพุทธคุณ ผงอธิเจ ตรีนิสิงเห ผงปถมัง ผงมหาราช ผงอิติปิโสรัตนมงคล ผงพุทธคุณจากหลากหลายคณาจารย์ พระเนื้อผงที่แตกหักชำรุด
พิธีพุทธาภิเษกพระพุทธเมตตามหาลาภ เสริมบารมี
โดยหลวงพ่อ พระครูสุนทร พุทธิคุณ วัดตั๊มน้ำล้อม จ.พะเยา อธิษฐานจิตบรรจุพลังพระพุทธอย่างเข้มขลังศักดิ์สิทธิ์
และยังได้รับการปลุกเสกจากยอดพระเกจิอาจารย์ผู้เรืองวิทยาคมแห่ง จ.พะเยา อีกหลายท่านดังต่อไปนี้
-พระครูอุปถัมภ์ ธรรมากร ต.จำปาหวาย อ.เมือง วัดร่องเข็ม จ.พะเยา
-ครูบาน้อย สิริวิชโย วัดบุญโยง จ.พะเยา พระเกจิอาจารย์อาคมขลังรุ่นใหม่แห่ง จ.พะเยาเจริญพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์
-หลวงพ่อศวัส ศิริมังคโล วัดเกษตรสุข จ.พะเยา นำเข้าพิธีพุทธาภิเษกพร้อมกับวัตถุมงคลของวัดเกษตรสุข
พระพุทธเมตตามหาลาภ เสริมบารมี องค์นี้เป็นเนื้อสีขาว จำนวนสร้าง ๔๙๙ องค์
คาถาบูชาพระพุทธเมตตามหาลาภ เสริมบารมี
ตั้งนะโมฯ ๓ จบ
สวดบทพระพุทธคุณ(อิติปิโส ภควา อรหังสัมมา…พุทโธ ภควาติฯ) ๑ จบ
ตามด้วย
อิติปาระมิ ตาติงสา อิติสัพพัญญูมาคะตา อิติโพธิมนูปปัตโต อิติปิโส จะเตนะโม ภควาติฯ
นะมามีมา มะหาลาภา อิติ พุทธัสสะ สุวัณณัง วา ระชะตัง วา มะณีวา วา ธะนัง วา พีชัง วา อัตถัง วา ปัตถัง วา เอหิ เอหิ อาคัจเฉยยะ อิติ มีมา นะมามิหังฯ
ปิโยเทวะมนุสสานัง ปิโยพรหมมานะมุตตะโม ปิโยนาคะสุปัณณานัง ปิณินทะริยัง นะมามิหัง
(สวด ๓ – ๙ จบ)(สวด ๓ – ๙ จบ)
