29/03/2024

กุมารเทพสังข์ทองเรียกทรัพย์ เนื้อผงแร่เหล็กน้ำพี้:02370

กุมารเทพสังข์ทองเรียกทรัพย์ เนื้อผงแร่เหล็กน้ำพี้
กุมารเทพสังข์ทองเรียกทรัพย์ เนื้อผงแร่เหล็กน้ำพี้
กุมารเทพสังข์ทองเรียกทรัพย์ เนื้อผงแร่เหล็กน้ำพี้
กุมารเทพสังข์ทองเรียกทรัพย์ เนื้อผงแร่เหล็กน้ำพี้
กุมารเทพสังข์ทองเรียกทรัพย์ เนื้อผงแร่เหล็กน้ำพี้

รหัส : 02370

ราคา : 0.00

(รายการนี้ไม่มีแล้ว)

เหล็กน้ำพี้ เป็นแร่เหล็กที่ตำนานเล่าขานกันมาหลายร้อยปี ว่ามีอานุภาพ และคุณภาพสูง มีชื่อเสียงเป็นที่เลื่องลือ โดยมีหลักฐานจากเอกสารประวัติศาสตร์ จดหมายเหตุ และวรรณคดี เท่าที่ทราบและค้นพบปรากฎแสดงให้เห็นว่า บ่อเหล็กน้ำพี้เป็นแร่ เหล็กชั้นดี มีการนำแร่เหล็กน้ำพี้มาใช้ประโยชน์ตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา แสดงว่าบรรพบุรุษไทยได้นำเอา เหล็กน้ำพี้ มาถลุง ทำเป็นชนวนในการสร้าง และผลิตเป็นอาวุธนานาชนิดใช้ต่อสู้กับอริราชศัตรูจนชนะรักษาเอกราชมาจนถึงทุกวันนี้ดังเช่น

1.พระแสงงอง้าว ที่สมเด็จพระนเรศวร ทรงใช้กระทำยุทธหัตถี ทรงใช้กระทำยุทธหัตถีกับพระมหาอุปราชา
2.สมเด็จพระนารายณ์มหาราช มีดาบล้างอาถรรพณ์ที่ตีจากเหล็กน้ำพี้ ซึ่งต่อมาขุนหลวงสรศักดิ์ได้นำมาปราบศัตรู
3.ขุนแผน ขุนศึกของพระพันวษา หรือสมเด็จพระรามาธิแดีที่ 2 ซึ่งอาวุธประจำกายของขุนแผนก็คือดาบฟ้าฟื้น ซึ่งก็มีชนวนจากเหล็กน้ำพี้เช่นกัน หลังจากปราบศัตรูจนราบคาบแล้ว ได้ถวายแด่ พระพันวสา ซึ่้งปัจจุบันนำมาเก็บไว้ที่พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ
4.พระยาพิชัยดาบหัก ขุนศึกผู้กล้าชาวเมืองอุตรดิตร์ ได้ใช้ดาบที่ตีจากเหล็กน้ำพี้ชื่อ นันฆกาวุธ ออกสู้รบกับข้าศึก หลักจากเข้ารับราชการกับสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช คาดว่าท่าคงนำดาบถวายแด่พระองค์ด้วย
5.ในวโรกาสที่พระบาทสมเด้จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว(รัชกาลที่ 7) ขึ้นเถลิงถวัลย์ราชสมบัติ หลวงจรุงราษฎร์เจริญ(อดีตนายอำเภอตรอน) มอบหมายให้พระวิเศษฤาไชย ข้าหลวงประจำจังหวัดอุตรดิตถ์(พ.ศ.2469-2471) นำพระแสงดาบที่ติจากเหล็กน้ำพี้ขึ้นทูลเกล้าถวายเป็นพระแสงศาสราวุธ

คุณวิเศษและอานุภาพของเหล็กน้ำพี้
จากตำราพิชัยสงครามได้กว่าไว้ว่า เหล็กน้ำพี้เป็นสุดยอดโลหะมหัศจรรย์ เป็นวัตถุกายสิทธิ์มีฤทธิ์ในตัว มีอาถรรพณ์เร้นลับ และมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์สถิตอยู่ทุกๆอณู แร่เหล็กน้ำพี้สามารถป้องกันสิ่งไม่ดี ภูติผีปีศาจ และวิญญาญร้าย และกันคุณไสย์ ลมเพ ลมพัด หรือมนต์ดำ หรือเดรัจฉานวิชาป้องกันได้ และยังเป็นวัตถุมงคลที่ให้คุณทาง เมตตามหานิยม โชคลาภ ได้ดีอีกด้วย เกจิอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญทางด้านการเล่นแร่แปรธาตุ ให้ความสำคัญกับเหล็กน้ำพี้มากและนิยมนำเหล็กน้ำพี้นี้มาเป็นมวลสารในการสร้างสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และวัตถุมงคลต่างๆ

——————————————————–

เรื่องย่อวรรณคดีสังข์ทองจาก สารานุกรมวิกิพีเดีย
ท้าวยศวิมลมีมเหสีชื่อนางจันท์เทวี มีสนมเอกชื่อนางจันทาเทวี ไม่มีโอรสธิดา จึงบวงสรวงและรักษาศีลห้าเพื่อขอบุตร และประกาศแก่พระมเหสีและนางสนมว่าถ้าใครมีโอรสก็จะมอบเมืองให้ครอง

อยู่มานางจันท์เทวีทรงครรภ์ เทวบุตรจุติมา เป็นพระโอรสของนาง แต่ประสูติมาเป็นหอยสังข์ นางจันทาเทวีเกิดความริษยาจึงติดสินบนโหรหลวงให้ทำนายว่าหอยสังข์จะทำให้บ้านเมืองเกิดความหายนะ ท้าวยศวิมลหลงเชื่อนางจันทาเทวี จึงจำใจต้องเนรเทศนางจันท์เทวีและหอยสังข์ไปจากเมือง

นางจันท์เทวีพาหอยสังข์ไปอาศัยตายายช่าวไร่ ช่วยงานตายายเป็นเวลา 5 ปี พระโอรสในหอยสังข์แอบออกมาช่วยทำงาน เช่น หุงหาอาหาร ไล่ไก่ไม่ให้จิกข้าว เมื่อนางจันท์เทวีทราบก็ทุบหอยสังข์เสีย

ในเวลาต่อมา พระนางจันทาเทวีได้ไปว่าจ้างแม่เฒ่าสุเมธาให้ช่วยทำเสน่ห์เพื่อที่ท้าวยศวิมลจะได้หลงอยู่ในมนต์สะกด และได้ยุยงให้ท้าวยศวิมลไปจับตัวพระสังข์มาประหาร ท้าวยศวิมลจึงมีบัญชาให้จับตัวพระสังข์มาถ่วงน้ำ แต่ท้าวภุชงค์(พญานาค) ราชาแห่งเมืองบาดาลก็มาช่วยไว้ และนำไปเลี้ยงเป็นบุตรบุญธรรม ก่อนจะส่งให้นางพันธุรัตเลี้ยงดูต่อไปจนพระสังข์มีอายุได้ 15 ปีบริบูรณ์

วันหนึ่ง นางพันธุรัตได้ไปหาอาหาร พระสังข์ได้แอบไปเที่ยวเล่นที่หลังวัง และได้พบกับบ่อเงิน บ่อทอง รูปเงาะ เกือกทอง(รองเท้าทองนั้นเอง) ไม้พลอง และพระสังข์ก็รู้ความจริงว่านางพันธุรัตเป็นยักษ์ เมื่อพระสังข์พบเข้ากับโครงกระดูก จึงได้เตรียมแผนการหนีด้วยการสวมกระโดดลงไปชุบตัวในบ่อทอง สวมรูปเงาะ กับเกือกทอง และขโมยไม้พลองเหาะหนีไป

เมื่อนางพันธุรัตทราบว่าพระสังข์หนีไป ก็ออกตามหาจนพบพระสังข์อยู่บนเขาลูกหนึ่ง จึงขอร้องให้พระสังข์ลงมา แต่พระสังข์ก็ไม่ยอม นางพันธุรัตจึงเขียนมหาจินดามนตร์ที่ใช้เรียกเนื้อเรียกปลาได้ไว้ที่ก้อนหิน ก่อนที่นางจะอกแตกตาย ซึ่งพระสังข์ได้ลงมาท่องมหาจินดามนตร์จนจำได้ และได้สวมรูปเงาะออกเดินทางต่อไป

พระสังข์เดินทางมาถึงเมืองสามล ซึ่งมีท้าวสามลและพระนางมณฑาปกครองเมือง ซึ่งท้าวสามลและพระนางมณฑามีธิดาล้วนถึง 7 พระองค์ โดยเฉพาะ พระธิดาองค์สุดท้องที่ชื่อ รจนา มีสิริโฉมเลิศล้ำกว่าธิดาทุกองค์ จนวันหนึ่ง ท้าวสามลได้จัดให้มีพิธีเสี่ยงมาลัยเลือกคู่ให้ธิดาทั้งเจ็ด ซึ่งธิดาทั้ง 6 ต่างเสี่ยงมาลัยได้คู่ครองทั้งสิ้น เว้นแต่นางรจนาที่มิได้เลือกเจ้าชายองค์ใดเป็นคู่ครอง ท้าวสามลจึงได้ให้ทหารไปนำตัวพระสังข์ในร่างเจ้าเงาะซึ่งเป็นชายเพียงคนเดียวที่เหลือในเมืองสามล ซึ่งนางรจนาเห็นรูปทองภายในของเจ้าเงาะ จึงได้เสี่ยงพวงมาลัยให้เจ้าเงาะ ทำให้ท้าวสามลโกรธมาก เนรเทศนางรจนาไปอยู่ที่กระท่อมปลายนากับเจ้าเงาะ

ณ สวรรค์ชั้นดาวดึงส์ของพระอินทร์ อาสน์ที่ประทับของพระอินทร์เกิดแข็งกระด้าง อันเป็นสัญญาณว่ามีผู้มีบุญกำลังเดือดร้อน จึงส่องทิพยเนตรลงไปพบเหตุการณ์ในเมืองสามล จึงได้แปลงกายเป็นกษัตริย์เมืองยกทัพไปล้อมเมืองสามล ท้าให้ท้าวสามลออกมาแข่งตีคลีกับพระองค์ หากท้าวสามลแพ้ พระองค์จะยึดเมืองสามลเสีย

ท้าวสามลส่งหกเขยไปแข่งตีคลีกับพระอินทร์ แต่ก็แพ้ไม่เป็นท่า จึงจำต้องเรียกเจ้าเงาะให้มาช่วยตีคลี ซึ่งนางรจนาได้ขอร้องให้สามีช่วยถอดรูปเงาะมาช่วยตีคลี เจ้าเงาะถูกขอร้องจนใจอ่อน และยอมถอดรูปเงาะมาช่วยเมืองสามลตีคลีจนชนะในที่สุด

หลังจากเสร็จภารกิจที่เมืองสามลแล้ว พระอินทร์ได้ไปเข้าฝันท้าวยศวิมล และเปิดโปงความชั่วของพระนางจันทาเทวี พร้อมกับสั่งให้ท้าวยศวิมลไปรับพระนางจันท์เทวีกับพระสังข์มาอยู่ด้วยกันดังเดิม ท้าวยศวิมลจึงยกขบวนเสด็จไปรับพระนางจันท์เทวีกลับมา และพากันเดินทางไปยังเมืองสามลเมื่อตามหาพระสังข์

ท้าวยศวิมลและพระนางจันท์เทวีปลอมตัวเป็นสามัญชนเข้าไปอยู่ในวัง โดยท้าวยศวิมลเข้าไปสมัครเป็นช่างสานกระบุง ตะกร้า ส่วนพระนางจันท์เทวีเข้าไปสมัครเป็นแม่ครัว และในวันหนึ่ง พระนางจันท์เทวีก็ปรุงแกงฟักถวายพระสังข์ โดยพระนางจันท์เทวีได้แกะสลักชิ้นฟักเจ็ดชิ้นเป็นเรื่องราวของพระสังข์ตั้งแต่เยาว์วัย ทำให้พระสังข์รู้ว่าพระมารดาตามมาแล้ว จึงมาที่ห้องครัวและได้พบกับพระมารดาที่พลัดพรากจากกันไปนานอีกครั้ง

หลังจากนั้น ท้าวยศวิมล พระนางจันท์เทวี พระสังข์กับนางรจนาได้เดินทางกลับเมืองยศวิมล ท้าวยศวิมลได้สั่งประหารพระนางจันทาเทวี และสละราชสมบัติให้พระสังข์ได้ครองราชย์สืบต่อมา

ที่มาข้อมูลเรื่องสังข์ทอง : http://th.wikipedia.org
—————————————————————

กุมารทองสังข์ทองเรียกทรัพย์ ขนาดบูชาหน้าตัก 1 นิ้ว สร้างจากมวลสารหลักคือผงเหล็กน้ำพี้ ขึ้นรูปเป็นกุมารทองทองน้อยน่ารักนั่งบนหอยสังข์ มือข้างหนึ่งกวักเรียก อีกข้างหนึ่งถือถุงเงิน

พิธีกรรมปลุกเสกสองครั้งดังนี้
ครั้งที่ 1. ทำพิธีบวงสรวงและปลุกเสกโดย อาจารย์สมบัติ วัดท่าทอง จ.อุตรดิตถ์ ซึ่งท่านเป็นศิษย์ของหลวงปู่ทองดำ สายหลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน จ.พิจิตร หลวงพ่อท่านเจิมแป้งให้ทุกองค์
ครั้งที่ 2. ทางร้านนำได้นำไปให้เกจิอาจารย์ปลุกเสกอีกครั้งหนึ่งเพื่อความศักดิ์สิทธิ์เข้มขลัง

เนื่องจากมวลสารที่ใช้สร้างเป็นเหล็กน้ำพี้ กุมารที่จะมาจุติจึงต้องเป็นกุมารเทพเท่านั้นเพราะ ว่ากุมารพราย หรือภูติที่มีพลังงานไม่ดีจะไม่สามารถ เข้าไปอยู่ในกุมารที่สร้างจากเหล็กน้ำพี้นี้ได้ และกุมารที่สร้างจากผงเหล็กน้ำพี้นี้เป็นกุมารที่มีฤทธิ์มากเป็นพิเศษ เพราะผลจากพลังของเหล็กน้ำพี้นั่นเอง กุมารรุ่นนี้ดีและเก่งครบเครื่องโดยเฉพาะอย่างยิ่งทางด้าน เรียกโชคลาภ และเฝ้าบ้านเรือน เฝ้าทรัพย์ เตือนภัยให้โชคลาภ มีฤทธิ์และเก่งสามารถให้ช่วยได้หลายทาง ที่ไม่ผิดศีลธรรม

กุมารนี้ดีจริงใครอยากได้กุมารเก่งไว้บูชา จัดไปได้เลย

Leave a Reply